01
Minimalist
การออกแบบที่เน้นเรียบง่าย แต่ชัดเจนและโดดเด่น มีลักษณะน้อยแต่มาก มีการตัดทอนรายละเอียดส่วนเกินออก มีการใช้ Negative Space และสีที่ไม่มาก ซึ่ง Minimalist นั้นกว้างมาก พอออกแบบแล้วอาจมีการไปใช้องค์ประกอบของ Style อื่นมาร่วม เพราะความ minimal กับความขี้เกียจในการออกแบบมันช่างใกล้กันเหลือเกิน
02
Maximalism
‘more is more.’ หรือ ‘มากก็คือมาก’ ขอให้ทุกคนนึกไปถึงสีสันที่ฉูดฉาด เฉดที่สดใส จัดเต็มไปด้วยลวดลายและเลเยอร์ เพราะทั้งหมดนี้คือหัวใจสำคัญของความเป็นแม็กซิมอลที่จะช่วยกระตุ้นอารมณ์ ความรู้สึก และตัวตนของพวกเขาออกมาได้อย่างชัดเจน
03
Typography
การออกแบบโดยใช้ตัวอักษรเป็นหลักในชิ้นงาน โดยเลือกรูปแบบตัวอักษรที่สื่อให้ตรงตามจุดมุ่งหมาย โดยใช้การจัดวาง ขนาด ระยะ รวมทั้งการดึงองค์ประกอบของตัวอักษรมาสร้างสรรค์เป็นงานออกแบบ
04
Line Art
การออกแบบโดยใช้เส้นเป็นหลักวาดรูปร่างต่าง ๆ โดยไม่มีการลงสีพื้นผิว หรือมีการลงก็จะน้อยมาก ส่วนใหญ่ลงบริเวณเงา มักใช้ลักษณะการวาดด้วยมือ ทำให้งานดูง่ายต่อการสื่อความหมาย
05
Doodle
เป็นการวาดภาพขึ้นง่าย ๆ แบบสุ่ม นอกจากการวาดเป็นรูปธรรมแล้วยังสามารถแปลงสิ่งที่เป็นนามธรรมเป็นรูปธรรมจากสมองของผู้วาด ในงานกราฟิกมีการใช้ Doodle แบบเพียวและการใช้แบบผสมผสานกับ Style การออกแบบอื่น ๆ ดูเผิน ๆ จะเหมือน Line Art แต่ข้อแตกต่างก็คงจะเป็นลักษณะการวาดที่ดูเป็นกลุ่มเป็นก้อนมากกว่า Line Art
06
Neon
Neon ลักษณะจะคล้ายกับ Line Arti แตกต่างตรงที่ การออกแบบโดยการใช้การเดินเส้นที่มีแสงไฟ วาดเป็นรูปภาพ หรือตัวอักษร
07
Grunge
การจัดวางองค์ประกอบที่ไม่สม่ำเสมอ วุ่นวาย ผสมผสานกับความไม่สะอาด มีคราบสกปรก ข้อความที่เขียนด้วยมือแบบไม่ตั้งใจ การจัดวางภาพส่วนใหญ่เป็นแบบอสมมาตร
08
Swissted
ใช้ลักษณะของ negative space สี่ค่อนข้างตุ่น และดูด้าน ชิ้นงานดูเรียบง่าย มักใช้ตัวอักษรลักษณะ Sans serif
09
Double Exposure
เป็นการออกแบบที่นำ สิ่ง2สิ่งมาซ้อนทับกัน เช่นการออกแบบตัวอักษรที่ภายในเป็นรูปหน้าคน หรือการนำรูปหน้าคนมาใช้แต่ภายในเป็นรูปสถานที่ การออกแบบลักษณะนี้สามารถเล่าเรื่องของ 2 สิ่งไปพร้อม ๆ กันได้
10
Bauhaus
เป็นการออกแบบที่ เน้นความเรียบง่ายตรงไปตรงมา รูปทรงแบบเลขาคณิตไม่มีความซับซ้อน เป็นการลดทอนองค์ประกอบต่าง ๆ ลง ส่วนการใช้สีเป็นการใช้สีพื้นฐาน
11
Memphis
เป็นการใช้รูปทรง ที่หลากหลาย มายำกัน ดูขาด ๆ เกิน ๆ ไม่สมดุลย์ แต่ก็แอบมีความสมดุลย์อยู่ภายใน รูปแบบจะดูโบราณย้อนไปใน ยุค 80 จะเห็นว่ามันได้รับอิตธิพลจาก Bauhaus
12
Art Nouveau
การออกแบบที่ดูซับซ่อน มีการตัดเส้นขอบ ลักษณะเป็นรูปทรงธรรมชาติดูอ้อนช้อย โทนสีเป็นธรรมชาติ
13
Art Deco
สไตล์ที่ดูสง่าและคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย เน้นรูปทรงและลวดลายแบบธรรมชาติ แต่มีความเป็นรูปทรงเรขาคณิตเข้ามาผสมทำให้ดูแข็งแรงขึ้น เส้นสายพวยพุ่งแนวตั้งเปี่ยมไปด้วยพลัง การใช้สีจะมีความ contrast สูง ลักษณะงานจะแบนไม่มีมิติโดยเปรียบได้ว่า Art Deco ส่วน Art Nouveau คือผู้หญิง
14
Victoriana
สไตล์การออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากช่วงปี 1837 ถึง 1901 ซึ่งอยู่ในสมัยสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย โดยมีการจับเอาองค์ประกอบของเหรียญตราเครื่องแบบ สิ่งประดับต่าง ๆ ของอาคารมาใช้ในการออกแบบ ทั้งการใช้เส้นขอบ ริบบิ้นที่ดูหรูหรา
15
American Kitsch
สีของภาพและตัวอักษรมีความ Contrast รูปภาพออกเป็นแนวการ์ตูนภาพประกอบ แม้จะใช้ Scale เหมือนคนจริงก็จะยังเป็นแบบการ์ตูน โดยตัวละครจะแสดงท่าทางการโพสต์อย่างชัดเจน ภาพรู้สึกมีการเคลื่อนไหว
16
Psychedelic
เป็นการออกแบบแบบศิลปะนามธรรม โดยใช้สีที่มีลักษณะการกระตุ้นเร้าจากฤทธิ์ของยากล่อมประสาท เป็นภาพสีฉุดฉาด สลับสีหลากหลายสับสนอลหม่าน ที่มีเส้นขอบตัดที่ชัดเจน
17
Pop Art
Pop Art หรือ Popular Art แปลตรง ๆ ก็คือ ศิลปะที่เป็นที่นิยม แต่ในแง่การออกแบบนั้น จะหมายถึงศิลปะในช่วงปี 50 ที่เกิดในประเทศ อเมริกาและอังกฤษ เป็นการนำแนวคิดจากสังคมแห่งการบริโภค วัตถุนิยม ทำให้ศิลปะแสดงออกสิ่งที่ประชาชนคลั่งไคล้ สีสันของ POP Art จะมีความเป็นสีเนื้อเดียวชัดเจน
18
8bit/Pixel Art
8bit หรือ Pixel Art การนำลักษณะการแสดงผลกราฟิกในยุค 8bit มาใช้ โดยจะได้สีจำนวนน้อย และภาพจะเป็นจุด ๆ เรียงกันต่อเป็นภาพ ซึ่งมักจะนำเสนอด้วยจุดหยาบ ๆ
19
Voxel Art
เกิดจากการผสมค ระหว่างคำว่า volumetric และคำว่า pixel โดยชิ้นงานออกแบบจะได้เป็นแบบ pixel แบบมี Volume โดยมีลักษณะการนำก้อน Pixel มาเรียงต่อกันจนเป็นชิ้นงาน จะพูดง่าย ๆ มันก็เหมือนกับตัวต่อนั้นแหละครับ
20
Low poly
เป็นการลดความละเอียดของโมเดลสามมิติ โดยใช้ Face ของโมเดลน้อย ทำให้ดูภาพไม่สมจริง เหมือนงานไม่เสร็จ แต่ดูคร่าว ๆ ก็จะรู้ว่าเป็นภาพอะไร
21
3D Clay Illustrarion
3D Clay Illustration การออกแบบโดยใช้รูปแบบการปั้นดินแบบสามมิติ ซึ่งมีทั้งการปั้นจริงและการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกในการปั้น ทำให้ผลงานดูเป็นมิตร ดูสนุก และดูจับต้องได้
22
Flat
การวางวัตถุหรือสิ่งที่ต้องการนำเสนอ โดยเป็นมุมมองที่มองจากด้านบน
23
Flat-Lay
การวางวัตถุหรือสิ่งที่ต้องการนำเสนอ โดยเป็นมุมมองที่มองจากด้านบน
24
Futurism
จริง ๆ คือแปลว่าย้อนยุค แต่ในแง่ของการออกแบบ จะหมายถึง Style งานออกแบบย่อยยุคไปในช่วงปี 50-70 ดูสนุกสนานมีชีวิตชีวา แต่สีที่ใช้ก็ไม่ใช้สีที่สดใส ซึ่งน่าจะเป็นเพราะด้วยเทคโนโลยีการพิพมืในสมัยนั้น
25
Retro
ความย้อนยุค แต่ในแง่ของการออกแบบ จะหมายถึง Style งานออกแบบย้อนยุคไปในช่วงปี 50-70 ดูสนุกสนานมีชีวิตชีวา แต่สีที่ใช้ก็ไม่ใช้สีที่สดใส ซึ่งน่าจะเป็นเพราะด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ในสมัยนั้น
26
Modern Retro
งานออกแบบที่มีความทันสมัยแบบย้อนยุค ด้วยการนำเอกลักษณ์ของยุค Retro มาปรับปรุงวิธีการนำเสนอให้มีความทันสมัย ลดทอนรายละเอียดลง ทำให้ดูเรียบง่าย แต่ยังคงความเป็น Retro อยู่
27
Retro futuristic
งานออกแบบย้อนยุคStyle ของ Retro แต่เล่าเรื่องในอนาคต ซึงมักแสดงออกมาในเรื่องเทคโนโลยีที่ทันสมัย หรือบางครั้งก็จะเป็นสิ่งที่เกินความเป็นไปได้ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็ปกเกมอวกาศในยุค 80 ส่วนใหญ่จะเป็น Style นี้
28
Surrealism
Style ที่เหนือจริง การถ่ายทอดจากความเพ้อฝัน เหนือจินตนาการ รู้สึกอย่างไรให้แสดงอย่างนั้น ถือว่าเป็นต้นแบบของการนำเสนอการตัดต่อภาพแปลก ๆ จุดสังเกตในการทำ Surrealism ที่ดีนั้นจะยังคงความสวยงามตามองค์ประกอบทางศิลปะ
29
Collage Art
ศิลปะของการตัดแปะ เป็นการตัดแปะโดยใช้ ชิ้นงานอื่น ๆ นำมารวมกัน อาจจะเป็นเศษกระดาษ หนังสือพิมพ์นิตยสาร เศษผ้ามารวม ๆ กัน สำหรับในการคอมพิวเตอร์กราฟิก อาจะใช้การตัดแปะจากสื่ออื่น ๆ มารวมกัน โดยไม่จำเป็นต้องทำให้สมจริง เหมือนของจริง
30
Levitation Style
Levitation Style หรือบางทีเรียกว่า Anti-Gravity เป็นงานออกแบบที่ล่องลอยไม่มีแรงโน้มถ่วง ทำให้องค์ประกอบกระจัดกระจายออกไปในทิศทางต่าง ๆ
31
Glitch
เป็นการออกแบบโดยใช้ รูปที่ถูกทำให้บิดเบี้ยว จาก FX ของการถูกสัญญาณ แทรก การแทรกแซงของไฟฟ้า ทำให้ดูไม่ชัด นึกภาพง่าย ๆ เหมือนเราดูหนังผีตอนที่ดูหน้าจอแล้วผีมาครับ ก็จะเป็นแบบนั้นแหละ
32
Op-Art
ย่อมาจากคำว่า optical art บางกลุ่มเรียกว่า retinal art หรือ perceptual abstraction หรือ ในงานกราฟิก จะเรียกว่า Optical Illusion Design เป็นงานศิลปะลวงตา นิยมในช่วงยุค 60 งานออกแบบ แบบนี้จะเป็นเล่นกับปฏิกริยาของดวงตาที่ทำให้เกิดภาพเคลื่อนไหวบ้าง เกิดความสับสน เกิดมิติ หรือแม้กระทั้งโดยหลอกด้วยสี
33
Whimsical art
Style งานออกแบบที่ดูมีชีวิตชีวาสนุกสนาน เหมือนภาพประกอบในหนังสือเด็ก ไม่ได้คำนึงถึงความสมจริงมากนัก ถึงแม้ภาพภาพออกจะประหลาด แต่ก็จะคงความน่ารัก แต่ถึงแม้เป็นงานภาพประกอบเด็ก ๆ สีที่ใช้ก็ไม่ได้ใช้เพียงแค่สี ปฐมภูมิ แดงเหลืองน้ำเงิน เท่านั้น แต่มีการใช้สีที่หลากหลาย โดยสีส่วนใหญ่จะออกแนวตุ่น ๆ ด้วยซ้ำไป
34
Nature Inspired
Nature Inspired เป็นการนำองค์ประกอบของธรรมชาติเข้ามาใช้ในการออกแบบ
35
Gorgeous
เป็น Style การออกแบบที่ดูหรูหรา นิยมใช้สีทองและสีเงินในการมาทำเป็นองค์ประกอบหลัก ช่วยสร้างคุณค่าให้กับสิ่งที่นำมาออกแบบ Tropical เป็นการนำเส้นสีรูปลักษณ์ของต้นไม้ดอกไม้เมืองร้อนเข้ามาประกอบในการออกแบบ
36
Tropical
Tropical เป็นการนำเส้นสีรูปลักษณ์ของต้นไม้ดอกไม้เมืองร้อนเข้ามาประกอบในการออกแบบ
37
Cut-Paper
การออกแบบที่นำเสนอด้วยรูปแบบการตัดกระดาษนำมาเรียงเป็นรูปทรง ซึ่งมีทั้งการตัดกระดาษจริง และการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกในการสร้าง ซึ่งจะมีมิติซ้อนกันเป็นแผ่น ทำให้ดูสวยงามกว่าภาพแบบปกติ
38
Zentangle
Zentangle เป็นศิลปะที่ทำให้เกิดสมาธิ โดยสร้างจากลายแพทเทิร์นมาต่อกันหลายๆอัน นักออกแบบสามารถใช้แนวคิด สร้างสรรค์เป็นงานกราฟิกต่อได้
เทรนด์งานออกแบบ 2024
